Artist : Michael Jackson
Year Released : 2014
Genre : Pop, R&B, New Jack Swing
Musicagape : 3.5/5 Stars
แม้จะจากโลกไปกว่า 5 ปี แต่ศิลปินคนนี้ Michael Jackson ยังคงมีอัลบั้มออกมาเรื่อยๆ อัลบั้มล่าสุดในชื่อ "Xscape" เป็นอัลบั้มที่นำผลงานเพลงที่ยังไม่เคยออกอากาศหรือวางจำหน่ายที่ใดมาก่อนของไมเคิล ออกมาตีความและสร้างรูปแบบดนตรีใหม่ๆที่แตกต่างจากเวอร์ชั่น Demo เก่าของแต่ละเพลง โดยค่ายเพลง Sony Music เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดของไมเคิล และได้นำโปรดิวเซอร์ที่เคยทำงานโดยตรงกับไมเคิล พร้อมกับโปรดิวเซอร์อีกหลายๆคนที่มีความปรารถนาอยากจะร่วมทำงานกับไมเคิล ในอัลบั้มนี้ พวกเขาก็ได้ร่วมรังสรรค์อัลบั้มใหม่ขึ้นมาให้ศิลปินผู้ล่วงลับไปแล้วได้กลับขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง
เปิดตัวอัลบั้มด้วยการตัดส่วนหนึ่งของเพลง "Slave to the Rhythm" เป็นเพลงประกอบโฆษณาโทรศัพท์มือถือของ Sony รุ่น Xperia 72 และในส่วนของซิงเกิ้ล ทางค่ายเพลงได้ประกาศว่าจะปล่อยเพลง "Love Never Felt So Good" ออกมาเป็นซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้ม และก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก เพราะเพลงสามารถไต่ขึ้นไปติด TOP 10 ชาร์ต ของ Billboard Hot 100 จนทำให้ไมเคิล กลายเป็นศิลปินเดี่ยวคนแรกที่มีเพลงติดซาร์ตต่อเนื่องถึง 5 ทศวรรษ บางเพลงอย่างเช่น "Xscape" ซึ่งตั้งใจจะปล่อยลงในอัลบั้ม "Invincible" และส่วนหนึ่งของเพลงก็เคยหลุดออกมาสู่สาธารณะแล้ว แต่ตัดสินใจตัดออกในภายหลัง มาในอัลบั้มนี้ ก็ได้นำเพลงนี้เข้ามาบรรจุด้วย
โดยรวมของอัลบั้มแล้วก็ถือว่าเหล่าโปรดิวเซอร์ตีความและสร้างสรรค์อัลบั้มออกมาได้ดีพอสมควร มิติของเสียงฟังดูเป็นเอกลักษณ์และตัวตนของไมเคิล อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนประทับใจอัลบั้มก่อนๆของไมเคิลมากกว่า และมองว่าอัลบั้มก่อนๆทำไว้ได้ดีกว่ามาก ทั้งเรื่องมิติและรายละเอียดทางดนตรีที่ซับซ้อนและน่าฟังกว่า
ปล.อัลบั้มนี้ได้ปล่อยเวอร์ชั่น Deluxe ออกมาด้วย โดยได้บรรจุเวอร์ชั่นเก่าๆของทุกเพลงเอาไว้ ซึ่งผู้เขียนมองว่าน่าฟังและมีเสน่ห์กว่าเพลงชุดใหม่ที่ทำออกมามากพอสมควร
Track-By-Track
-Love Never Felt So Good : บทเพลงในจังหวะกลอง Disco เคล้าคลอไปกับกลุ่มเครื่องสายที่บรรเลงอยู่เป็นพื้นหลัง ให้ความหรูหราและนุ่มนวลในแบบฉบับของไมเคิล เพลงได้ถูกแต่งขึ้นเมื่อปี 1983 โดย Paul Anka เป็นผู้ร่วมเขียนเพลงนี้ด้วย เพลงนี้ทำออกมาในอีกหนึ่งเวอร์ชั่น ซึ่งได้ Justin Timberlake เป็นนักร้องรับเชิญ โดยในเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้นำช่วง Percussion จากเพลง "Workin' Day And Night" ซึ่งเป็นเพลงเก่าของไมเคิล มาใส่ไว้ในช่วงกลางของเพลงด้วย
-Chicaco : ซึ่งมีชื่อเพลงเดิมว่า "She Was Lovin' Me" เป็นการนำซาวน์ลูปสไตล์ Hip-Hop มาผสานเข้ากับมิติเสียงยุค 80's ได้อย่างลงตัว เพลงนี้ได้แต่งขึ้นในช่วงปี 1999 และไม่ได้บรรจุอยู่ในอัลบั้ม Invincible กล่าวกันว่าเพลงนี้ถูกแต่งในช่วงที่ไมเคิลผิดหวังในความรัก Timberlake โปรดิวเซอร์ของเพลงนี้ได้กล่าวว่าบางครั้งเขารู้สึกเหมือนกับ "วิญญาณของไมเคิลมาพูดกับผมในสตูดิโอ"
-Loving You : หนึ่งในเพลงรักที่มีเนื้อหาตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน ถูกแต่งและอัดเสียงในเวอร์ชั่นเก่าในช่วง 1985-1987 ซึ่งเป็นช่วงที่ทำอัลบั้ม Bad ผู้เขียนมองว่าเวอร์ชั่นเก่าของเพลงนี้น่าฟัง นุ่มนวล และทำได้ดีกว่าเวอร์ชั่นใหม่
-A Place With No Name : ขึ้นต้นด้วยเสียงคีย์บอร์ดสังเคราะห์ ไมเคิลแต่งเนื้อเพลงใหม่ทั้งหมดใส่ลงในทำนองเดิมที่ได้นำมาจากเพลง "A Horse With No Name" ของวง America ซึ่งเป็นเพลงที่โด่งดังมากเมื่อปี 1972 เนื้อหาในเพลงใหม่นี้พูดถึงชายคนหนึ่งที่รถเสียกลางถนนไฮเวย์ ระหว่างนั้นเขาได้พบกับหญิงสาวที่พาเขาไปยังสถานที่ที่ไม่มีชื่อ ที่ๆซึ่งไร้ความเจ็บปวดและทุกคนอยู่กันอย่างสันติสุข
-Slave To The Rhythm : เพลง Dance ที่มีรายละเอียดดนตรีที่ค่อนข้างยุ่งเหยิงและซับซ้อน มีเสียง percussion โดดเด่นตลอดเพลง ต้นฉบับดั้งเดิมถูกเขียนขึ้นในปี 1991 โดย L.A.Reid และ Babyface เรื่องราวของเพลงพูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องตรากตรำทำสิ่งต่างๆให้คนในครอบครัวที่ไม่เห็นคุณค่า เสมือนกับการตกอยู่ภายใต้อำนาจของจังหวะ
-Do You Know Where Your Children Are : เพลงที่มีจังหวะหนักแน่นแนว Electronic พร้อมกับโซโลกีตาร์บาดหูในช่วงกลางเพลงที่ทำให้นึกถึงเพลง "Black or White" ของไมเคิลเอง เพลงนี้ถูกอัดเสียงครั้งแรกในช่วงอัลบั้ม "Bad" แต่ก็ไม่ได้บรรจุอยู่ในอัลบั้ม ต่อมาได้มีการนำกลับมาทำใหม่อีกครั้งในอัลบั้ม "Dangerous" แต่ก็ไม่ได้บรรจุอยู่ในอัลบั้มอีกเช่นกัน
-Blue Gangsta : เพลงสไตล์ Hip-Hop ที่มีมิติจังหวะและดนตรีที่ซับซ้อนไม่แพ้เพลงก่อนหน้า เป็นเพลงที่ค่อนข้างฟังยากเพลงหนึ่ง มีความเป็น Ambient แทรกอยู่ช่วงกลางเพลง
-XSCAPE : เป็นที่รู้กันว่าไมเคิลมักจะหยิบซื่อหนึ่งในเพลงในอัลบั้มออกมาตั้งเป็นชื่ออัลบั้ม และเพลงนี้ก็ถูกนำมาตั้งเป็นชื่ออัลบั้ม Xscape ซึ่งก่อนหน้านี้ เพลงนี้จะได้อยู่ในอัลบั้ม Invincible แต่ก็ตัดออกไปก่อน เพลงมีความดุดันทั้งในเรื่องของจังหวะและการร้อง ไมเคิลสื่อความรู้สึกว่าอยากจะหลบหนีจากความวุ่นวายทั้งหมดที่เขาต้องเจอในชีวิตผ่านน้ำเสียงออกมาได้ดีเลยทีเดียว
--------------------------------------------------
Musicagape : 3.5/5 Stars
แม้จะจากโลกไปกว่า 5 ปี แต่ศิลปินคนนี้ Michael Jackson ยังคงมีอัลบั้มออกมาเรื่อยๆ อัลบั้มล่าสุดในชื่อ "Xscape" เป็นอัลบั้มที่นำผลงานเพลงที่ยังไม่เคยออกอากาศหรือวางจำหน่ายที่ใดมาก่อนของไมเคิล ออกมาตีความและสร้างรูปแบบดนตรีใหม่ๆที่แตกต่างจากเวอร์ชั่น Demo เก่าของแต่ละเพลง โดยค่ายเพลง Sony Music เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดของไมเคิล และได้นำโปรดิวเซอร์ที่เคยทำงานโดยตรงกับไมเคิล พร้อมกับโปรดิวเซอร์อีกหลายๆคนที่มีความปรารถนาอยากจะร่วมทำงานกับไมเคิล ในอัลบั้มนี้ พวกเขาก็ได้ร่วมรังสรรค์อัลบั้มใหม่ขึ้นมาให้ศิลปินผู้ล่วงลับไปแล้วได้กลับขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง
เปิดตัวอัลบั้มด้วยการตัดส่วนหนึ่งของเพลง "Slave to the Rhythm" เป็นเพลงประกอบโฆษณาโทรศัพท์มือถือของ Sony รุ่น Xperia 72 และในส่วนของซิงเกิ้ล ทางค่ายเพลงได้ประกาศว่าจะปล่อยเพลง "Love Never Felt So Good" ออกมาเป็นซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้ม และก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก เพราะเพลงสามารถไต่ขึ้นไปติด TOP 10 ชาร์ต ของ Billboard Hot 100 จนทำให้ไมเคิล กลายเป็นศิลปินเดี่ยวคนแรกที่มีเพลงติดซาร์ตต่อเนื่องถึง 5 ทศวรรษ บางเพลงอย่างเช่น "Xscape" ซึ่งตั้งใจจะปล่อยลงในอัลบั้ม "Invincible" และส่วนหนึ่งของเพลงก็เคยหลุดออกมาสู่สาธารณะแล้ว แต่ตัดสินใจตัดออกในภายหลัง มาในอัลบั้มนี้ ก็ได้นำเพลงนี้เข้ามาบรรจุด้วย
โดยรวมของอัลบั้มแล้วก็ถือว่าเหล่าโปรดิวเซอร์ตีความและสร้างสรรค์อัลบั้มออกมาได้ดีพอสมควร มิติของเสียงฟังดูเป็นเอกลักษณ์และตัวตนของไมเคิล อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนประทับใจอัลบั้มก่อนๆของไมเคิลมากกว่า และมองว่าอัลบั้มก่อนๆทำไว้ได้ดีกว่ามาก ทั้งเรื่องมิติและรายละเอียดทางดนตรีที่ซับซ้อนและน่าฟังกว่า
ปล.อัลบั้มนี้ได้ปล่อยเวอร์ชั่น Deluxe ออกมาด้วย โดยได้บรรจุเวอร์ชั่นเก่าๆของทุกเพลงเอาไว้ ซึ่งผู้เขียนมองว่าน่าฟังและมีเสน่ห์กว่าเพลงชุดใหม่ที่ทำออกมามากพอสมควร
Track-By-Track
-Love Never Felt So Good : บทเพลงในจังหวะกลอง Disco เคล้าคลอไปกับกลุ่มเครื่องสายที่บรรเลงอยู่เป็นพื้นหลัง ให้ความหรูหราและนุ่มนวลในแบบฉบับของไมเคิล เพลงได้ถูกแต่งขึ้นเมื่อปี 1983 โดย Paul Anka เป็นผู้ร่วมเขียนเพลงนี้ด้วย เพลงนี้ทำออกมาในอีกหนึ่งเวอร์ชั่น ซึ่งได้ Justin Timberlake เป็นนักร้องรับเชิญ โดยในเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้นำช่วง Percussion จากเพลง "Workin' Day And Night" ซึ่งเป็นเพลงเก่าของไมเคิล มาใส่ไว้ในช่วงกลางของเพลงด้วย
-Chicaco : ซึ่งมีชื่อเพลงเดิมว่า "She Was Lovin' Me" เป็นการนำซาวน์ลูปสไตล์ Hip-Hop มาผสานเข้ากับมิติเสียงยุค 80's ได้อย่างลงตัว เพลงนี้ได้แต่งขึ้นในช่วงปี 1999 และไม่ได้บรรจุอยู่ในอัลบั้ม Invincible กล่าวกันว่าเพลงนี้ถูกแต่งในช่วงที่ไมเคิลผิดหวังในความรัก Timberlake โปรดิวเซอร์ของเพลงนี้ได้กล่าวว่าบางครั้งเขารู้สึกเหมือนกับ "วิญญาณของไมเคิลมาพูดกับผมในสตูดิโอ"
-Loving You : หนึ่งในเพลงรักที่มีเนื้อหาตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน ถูกแต่งและอัดเสียงในเวอร์ชั่นเก่าในช่วง 1985-1987 ซึ่งเป็นช่วงที่ทำอัลบั้ม Bad ผู้เขียนมองว่าเวอร์ชั่นเก่าของเพลงนี้น่าฟัง นุ่มนวล และทำได้ดีกว่าเวอร์ชั่นใหม่
-A Place With No Name : ขึ้นต้นด้วยเสียงคีย์บอร์ดสังเคราะห์ ไมเคิลแต่งเนื้อเพลงใหม่ทั้งหมดใส่ลงในทำนองเดิมที่ได้นำมาจากเพลง "A Horse With No Name" ของวง America ซึ่งเป็นเพลงที่โด่งดังมากเมื่อปี 1972 เนื้อหาในเพลงใหม่นี้พูดถึงชายคนหนึ่งที่รถเสียกลางถนนไฮเวย์ ระหว่างนั้นเขาได้พบกับหญิงสาวที่พาเขาไปยังสถานที่ที่ไม่มีชื่อ ที่ๆซึ่งไร้ความเจ็บปวดและทุกคนอยู่กันอย่างสันติสุข
-Slave To The Rhythm : เพลง Dance ที่มีรายละเอียดดนตรีที่ค่อนข้างยุ่งเหยิงและซับซ้อน มีเสียง percussion โดดเด่นตลอดเพลง ต้นฉบับดั้งเดิมถูกเขียนขึ้นในปี 1991 โดย L.A.Reid และ Babyface เรื่องราวของเพลงพูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องตรากตรำทำสิ่งต่างๆให้คนในครอบครัวที่ไม่เห็นคุณค่า เสมือนกับการตกอยู่ภายใต้อำนาจของจังหวะ
-Do You Know Where Your Children Are : เพลงที่มีจังหวะหนักแน่นแนว Electronic พร้อมกับโซโลกีตาร์บาดหูในช่วงกลางเพลงที่ทำให้นึกถึงเพลง "Black or White" ของไมเคิลเอง เพลงนี้ถูกอัดเสียงครั้งแรกในช่วงอัลบั้ม "Bad" แต่ก็ไม่ได้บรรจุอยู่ในอัลบั้ม ต่อมาได้มีการนำกลับมาทำใหม่อีกครั้งในอัลบั้ม "Dangerous" แต่ก็ไม่ได้บรรจุอยู่ในอัลบั้มอีกเช่นกัน
-Blue Gangsta : เพลงสไตล์ Hip-Hop ที่มีมิติจังหวะและดนตรีที่ซับซ้อนไม่แพ้เพลงก่อนหน้า เป็นเพลงที่ค่อนข้างฟังยากเพลงหนึ่ง มีความเป็น Ambient แทรกอยู่ช่วงกลางเพลง
-XSCAPE : เป็นที่รู้กันว่าไมเคิลมักจะหยิบซื่อหนึ่งในเพลงในอัลบั้มออกมาตั้งเป็นชื่ออัลบั้ม และเพลงนี้ก็ถูกนำมาตั้งเป็นชื่ออัลบั้ม Xscape ซึ่งก่อนหน้านี้ เพลงนี้จะได้อยู่ในอัลบั้ม Invincible แต่ก็ตัดออกไปก่อน เพลงมีความดุดันทั้งในเรื่องของจังหวะและการร้อง ไมเคิลสื่อความรู้สึกว่าอยากจะหลบหนีจากความวุ่นวายทั้งหมดที่เขาต้องเจอในชีวิตผ่านน้ำเสียงออกมาได้ดีเลยทีเดียว
--------------------------------------------------
| คะแนนจากนักวิจารณ์มืออาชีพ (ข้อมูลวิกิพีเดีย) | |
|---|---|
| Aggregate scores | |
| Source | Rating |
| Metacritic | 66/100 |
| Review scores | |
| Source | Rating |
| AllMusic | |
| Consequence of Sound | C |
| The Guardian | |
| Los Angeles Times | |
| Rolling Stone | |
| Slant Magazine | |
| The Sydney Morning Herald | |
| The Independent | |
| Billboard | 90/100 |
| Entertainment Weekly | B |
iTune : XSCAPE
iTune : XSCAPE (Deluxe)
Xscape - Michael Jackson วิจารณ์ บทความ รีวีว Review Comment

ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น